แบบบ้านชั้นเดียว ทรงปั้นหยา แบบบ้านทรงปั้นหยา เป็นแบบบ้านซึ่งสามารถเจอได้ทุกภูมิภาคของเมืองไทย ด้วยเหตุว่าเป็นแบบบ้านที่แก้ไขข้อด้อยของหลังคาแบบสามเหลี่ยมหน้าจั่ว กระทั่งมาเป็นหลังคาที่มีด้านลาดทั้งผอง 4 ด้าน หรือที่เรียกว่าหลังคาทรงปั้นหยา ทำให้สามารถคุ้มครองป้องกันแดดและก็ฝนได้ครอบคลุมครบทุกด้านกว่าที่เคยเป็นแบบบ้านทรงปั้นหยา ก็เลยมีความมั่นคงและยั่งยืน แข็งแรง ทนลมพายุ และก็ทนฝน poolvilla
เหมาะสมกับลักษณะภูมิอากาศของเมืองไทย โดยแบบบ้านทรงปั้นหยานั้นสามารถเข้าได้กับบ้านหลากสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นร่วมยุค โมเดิร์น หรือไทยปรับใช้ เพราะเหตุว่าแบบบ้านทรงปั้นหยาถูกปรับปรุงขึ้นให้ทรงไม่มองเก่าแล้วก็โบราณ
รวมแบบบ้านงามๆกว่า 20 สไตล์ พร้อมขั้นตอนยื่นก่อสร้างที่สำนักงานเขต
แบบบ้านชั้นเดียว ทรงปั้นหยา

แบบบ้านทรงปั้นหยา มีลักษณะเช่นไร
ถ้าเกิดเจาะลึกถึงรูปแบบของแบบบ้านทรงปั้นหยา ก่อนนั้นได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกตั้งแต่ยุค รัชกาลที่ 5 ทำให้แบบบ้านทรงปั้นหยามีลักษณะเด่นเป็นมีหลังคา 4 ด้าน โดยอีกทั้ง 4 ด้านจะลาดต่อกันทุกด้านราวกับพีระมิด
แบบบ้านทรงปั้นหยาไม่มีสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ก็เลยอาจจะก่อให้ระบายความร้อนได้ช้า ก็เลยจำต้องใช้พื้นชายคาระบายความร้อนแทน ถ้าหากจะให้ดีจำต้องใช้อุปกรณ์ระบายความร้อนหรือฉนวนกันความร้อน สำหรับในการสร้างแบบบ้านทรงปั้นหยา เนื่องจากว่าแบบบ้านทรงนี้มีจุดอ่อนเรื่องความร้อนpoolvilla

จุดเด่น-ข้อเสีย แบบบ้านทรงปั้นหยา
จุดเด่นของแบบบ้านทรงปั้นหยา
แบบบ้านทรงปั้นหยา มีความแข็งแรงกว่าแบบอื่นๆด้วยคุณสมบัติที่องค์ประกอบทุกด้านวิ่งมาบรรสิ้นสุดกันบนยอดหลังคา ทำให้มีการเกิดความยั่งยืนมั่นคง สามารถรับลมรวมทั้งฝนได้จากรอบทิศ รวมทั้งเข้ากันได้กับตัวบ้านมากมายสไตล์
ข้อเสียของแบบบ้านทรงปั้นหยา
แบบบ้านทรงปั้นหยา แม้ว่าจะรับลมเข้ามามากมาย การถ่ายเทอากาศทำเป็นไม่ดีเท่าหลังคาแบบอื่น แม้กระนั้นสามารถไขปัญหาด้วยการตำหนิดแผ่นฝ้าชายคาที่มีรูระบายอากาศ ซึ่งจะต้องอาศัยช่างผู้ชำนาญสำหรับเพื่อการจัดตั้ง เพื่อมวลอากาศร้อนใต้หลังคาสามารถระบายออกไปบ้านสวยๆหรูๆ
แบบบ้านทรงปั้นหยา เหมาะสมกับบ้านพวกเราเช่นไร

1. สวยคลาสสิก
โดยมากแล้วแบบบ้านทรงปั้นหยา หลังคาทรงปั้นหยาที่พวกเรามองเห็นอยู่เสมอๆมีในขณะที่สร้างในโครงงานหมู่บ้านจัดสรรแล้วก็บ้านสร้างเอง เป็นแบบยอดฮิตที่ตามมาตรฐาน มีความงดงามคลาสสิก เด่นสะดุดตาpoolvilla
แบบบ้านทรงปั้นหยามิได้นิยมเฉพาะในบ้านพวกเราแค่นั้นยอดนิยม แต่ว่ายังก่อสร้างกันอย่างมากมายในโซนทวีปเอเชีย อาทิเช่น ประเทศญี่ปุ่น จีน รวมทั้งประเทศเกาหลี ส่วนในยุโรปนิยมประยุกต์ใช้เป็นหลังคาคฤหาสน์หรู นอกเหนือจากนั้นการผลิตแบบบ้านทรงปั้นหยา ยังนิยมสร้างเป็นบ้านพักผ่อนตากอากาศ บ้านชายฝั่งทะเลอีกด้วย
2. แข็งแรง ทน
แบบบ้านทรงปั้นหยา นอกเหนือจากที่จะมีสไตล์การออกแบบที่โมเดิร์น กับตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแล้ว หลังคาทรงนี้ยังแข็งแรงทนทานมากยิ่งกว่าแบบอื่นๆเพราะเหตุว่าตัวองค์ประกอบทั้งยัง 4 ด้าน ช่วยเหลือกันรองรับตัวหลังคา ทำให้ไม่พังทลายลงมากล้วยๆและก็ทนต่อลักษณะอากาศสูงที่สุด

3. ระบายความร้อน
แบบบ้านทรงปั้นหยา สามารถระบายความร้อนได้ดิบได้ดีในระดับหนึ่งก็เลยเหมาะสมกับบ้านพวกเรา เนื่องจากว่ามีพื้นที่ใต้หลังคามากมาย อากาศที่อยู่ใต้หลังคาจะเป็นเสมือนฉนวนกันร้อน จะช่วยกันอากาศร้อนจากข้างนอกไม่ให้กลับเข้ามาด้านในภาย ยิ่งหากใช้อุปกรณ์ระบายความร้อนหรือฉนวนกันความร้อน จะยิ่งช่วยการถ่ายเทอากาศเจริญเพิ่มขึ้น
4. ถูกหลักฮวงจุ้ย
ในทางฮวงจุ้ย แบบบ้านทรงปั้นหยาถือได้ว่าทรงหลังคาที่ดี กระแสพลังซี่ไหลได้รอบบ้าน ซึ่งก็คือสินทรัพย์ทรัพย์สินไหลมาเทมา ยิ่งกว่านั้นด้วยทรงหลังคาที่มีความสมดุลกันดี จะก่อให้คนที่อาศัยในบ้านมีความคิดความอ่านที่ดี สุจริต ไม่เหยเก และไม่มีความขัดแย้ง ทะเลาะกันวิลล่าภูเก็ต
แบบบ้านหลังคาทรงปั้นหยาบ้านชั้นเดี่ยว ทรงงามหลังคาทรงปั้นหยา

ถ้าเกิดท่านใดยังจำบ้านข้างหลังนี้ได้ ซึ่งเคยเป็นแบบบ้านแบบอย่าง ในรายละเอียด การวัดราคาก่อสร้าง รายละเอียดชุดนี้มีผู้ชมเข้าชมกันจำนวนไม่ใช่น้อยและก็อีกกรุ๊ปผู้ชม เป็นผู้ชมที่ปรารถนาเนื้อหาแบบบ้านข้างหลังนี้เพิ่มอีก วันนี้ “บ้านไอเดีย” จัดมาให้ดูกันตาม คำร้องขอนะครับ บางทีก็อาจจะช้าไปสักนิดสักหน่อย เพราะเหตุว่าแอดไม่นเองก็ลืมไปเลย เมื่อคิดขึ้นได้ก็จำเป็นต้องรีบเอามาลงให้ดูกัน สำหรับบ้านข้างหลังนี้ poolvilla
เป็นแบบบ้าน 3D ดีไซน์ให้เป็นบ้านชั้นเดี่ยว 3 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยราว 130.39 ตารางเมตร สร้างไว้บนที่ดิน ขนาด 88 ตารางวา โดยพื้นที่ที่เหลือจะเน้นย้ำเป็นสวนรอบบ้าน หลังคาบ้านทรงปั้นหยา เป็นทรงบ้านที่ดีต่อฮวงจุ้ย ทำให้เกิดความพร้อมใจ รักแล้วก็สามัคคีกันด้านในครอบครัวphuket village สำหรับงบประมาณก่อสร้างของบ้านข้างหลังนี้ ประมาณเริ่มที่ 1.5 ล้านบาท (ราคาจริงขึ้นกับวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการก่อสร้างรวมทั้งสาเหตุอื่นๆ)
7 วิธีออกแบบบ้านเอง ให้สวยตรงใจ ใช้งานได้จริง หลักเบื้องต้นที่ควรรู้ก่อนลงมือ
การออกแบบบ้านที่ดีและมีประสิทธิภาพต้องทำอย่างไร พิจารณาอะไรบ้าง ใครอยากรู้ตามมาดูการออกแบบบ้านเองให้เป๊ะปังแบบไม่ง้อมืออาชีพกันได้เลย
สำหรับคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์การออกแบบบ้านและแปลนบ้านถือเป็นเรื่องยากมาก เพราะนอกจากจะต้องคำนึงถึงความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานแล้ว ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่น่าปวดหัวอีกต่างหาก ดังนั้นสำหรับคนที่กำลังจะออกแบบบ้านด้วยตัวเองและกำลังมองหาแรงบันดาลใจอยู่ วันนี้กระปุกดอทคอมรวบรวมเคล็ดลับการออกแบบบ้านอย่างมีประสิทธิภาพมาฝาก รับรองรู้ไว้ช่วยให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นได้ แถมต้องได้บ้านที่สวยงามตรงตามใจแน่นอน
1. เลือกประเภทที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับสมาชิก
ไม่ใช่ว่าทุกครอบครัวจะต้องการบ้านขนาดใหญ่ และก็ไม่ใช่ว่าทุกครอบครัวจะเหมาะกับบ้านขนาดเล็ก ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก่อนจะออกแบบบ้าน คือ การเลือกประเภทที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโด โดยลองพิจารณาดูว่า ควรจะพื้นที่เท่าไรถึงจะเข้ากับไลฟ์สไตล์ของทุกคน เพื่อนำไปคำนวนต่อว่าภายในที่พักอาศัยของเราควรมีห้องนอนเท่าไร ห้องน้ำเท่าไร และเพิ่มเติมส่วนไหนบ้าง
2. ให้ความสำคัญกับเลเอาต์เป็นอันดับแรก
หลักจากเลือกประเภทที่อาศัยได้แล้ว ควรให้ความสำคัญกับแปลนบ้านก่อนการตกแต่ง เพราะแม้บ้านจะสวยงาม แต่ถ้าหากไม่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันก็เปล่าประโยชน์ ดังนั้นใครที่กำลังจะออกแบบบ้านแล้วละก็ ควรออกแบบแปลนบ้านให้เสร็จก่อน โดยพิจารณาว่าจะวางตำแหน่งแต่ละห้องอย่างไร ระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนตัว อยู่ติดกันได้หรือแยกคนละโซนไปเลนดีกว่า เพื่อป้องกันเสียงรบกวน หรือห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว ห้องครัว กั้นผนังดีไหม หรือออกแบบแบบ Open Plan ดีกว่า
3. ตกแต่งให้สอดคล้องกับพื้นที่
หลังจากเลือกแปลนบ้าน ที่ต้องการได้แล้ว ก็ถึงขั้นตอนของการตกแต่ง ซึ่งควรเลือกให้สอดคล้องไปกับพื้นที่ ขนาด และการจัดวางแปลนบ้าน เช่น หากภายในบ้าน ค่อนข้างเล็ก ควรเลือก การตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เพราะทั้งโทนสีและการออกแบบในสไตล์นี้จะช่วยให้ภายในบ้านดูกว้างขวาง สว่าง บรรรยากาศ ปลอดโปร่ง มากกว่าสไตล์เทรดิชันนอลหรือบ้านแบบดั้งเดิม ที่มักจะใช้ผนังกั้นห้องแบ่งพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ บ้านที่มีขนาดเล็ก อยู่แล้วยิ่งดูแคบลง
4. คำนึงถึงข้อดี-ข้อเสียของแต่ละจุด
เมื่อได้แบบบ้านที่ถูกใจแล้ว ก็อย่าเพิ่งลงมือทันที ลองพิจารณาถึง ข้อดี-ข้อเสีย ของแต่ละจุดสักรอบ เช่น หากเป็นคนชอบหน้าต่างบานใหญ่ ๆ เพราะอยากให้ บ้านสว่างและมองเห็น วิวด้านนอกแล้ว อย่าลืมดูด้วยว่าตรงกับทิศแดดหรือไม่ แดดเข้าช่วงไหน ไม่อย่างนั้นก็ จะทำให้บ้านร้อน อาจจะต้องติดกัน สาดหรือเปลี่ยนผ้าม่าน แบบกันความร้อน
5. ตั้งงบประมาณให้ชัดเจน
อีกหนึ่งปัญหาการตกแต่งบ้านที่หลายคนมักจะเจอก็คือ ซื้อของเข้าบ้านเพลินจนเกินไปงบ เพราะอยากได้ไปหมดทุกอย่าง ยิ่งหาก็ยิ่งเจอของที่ถูกใจ ฉะนั้นควรตั้งงบประมาณที่จะใช้ให้ชัดเจนและพยายามควบคุมให้อยู่ในวงเงินที่กำหนดเอาไว้ ป้องกันไม่ให้งบบานปลายหรือเกินได้นิดหน่อยแต่ไม่มากจนเกินไป ที่สำคัญอย่าลืมทำบัญชีเอาไว้ด้วย จะได้รู้ว่าใช้จ่ายกับอะไรไปบ้าง และสามารถลดตรงไหนช่วยประหยัดได้อีก
6. ถามความเห็นจากผู้รู้
ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาที่จะตามมาภายหลัง ควรปรึกษาหรือถามความเห็นจากคนที่อยู่แวดวงการออกแบบ อาจจะเป็นคนรู้จักที่มีประสบการณ์หรือผู้เชี่ยวชาญอย่าง สถาปนิกหรืออินทีเรียเพิ่มเติมด้วย เพราะพวกเขาเหล่านี้มีความรู้ความในเชิงลึก สามารถให้คำปรึกษาได้รอบด้าน รวมถึงการปรับและแก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ เพื่อให้บ้านเหมาะสมกับเราและน่าอยู่ยิ่งขึ้น
7. เชื่อสัญชาตญาณตัวเองบ้าง
เพราะการออก แบบบ้านไม่มีผิด ไม่มีถูก ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือความเหมาะสมและความต้องการ นอกจากวิธีการออกแบบที่ กล่าวมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำตามเป๊ะ ๆ ทุกข้อ บางอย่างอาจจะดูนอกกรอบไปบ้าง แต่ถ้าลองพิจารณาดูแล้วว่าเป็นสิ่งที่เราชอบ และ เข้ากับลักษณะ การใช้ชีวิตประจำวัน ให้เชื่อสัญชาตญาณ และ ทำตามความต้องการของตัวเองบ้าน หรือพูดง่าย ๆ ว่า ถ้ารู้สึกว่าใช่ ก็คือใช่ ไม่จำเป็นต้องอิงตามใคร ตามตำราปลูกเรือนตามใจผู้อยู่นั่นเอง
การออกแบบบ้านมีหลาย ๆ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นนอกจาก เรื่องการตกแต่งที่สวยงามตามใจชอบแล้ว ก็อย่าลืมคำนึงถึงจำนวนสมาชิกในบ้าน ลักษณะการ ใช้ชีวิตประจำวัน ของแต่ละคน รวมถึงความสะดวกสบายต่าง ๆ ด้วยนะคะ เพื่อให้บ้านเป็นบ้านที่น่าอยู่อย่างแท้จริง และ จะได้ไม่ต้องตามแก้ไขทีหลัง