จัดสวนข้างบ้าน

จัดสวนข้างบ้าน

จัดสวนข้างบ้าน ไอเดียเด็ดเกี่ยวกับการจัดสวนริมกำแพง เป็นมุมพักผ่อนในสวน

จัดสวนข้างบ้าน แนวทาง อีกแนวทาง ของการจัดสวนสวยๆ อีกมุมของบ้าน จากการ จัดสวนข้างบ้าน มุมเล็กๆ จุดนี้จะเป็นบริเวณหน้าบ้าน ติดกับหน้าห้องรับแขก ด้านนึงจะเป็นรั้วบ้านอยู่ริมถนน สวยงามน่าสนใจยังไง เราจะพาเพื่อนๆไปชมสวนนี้กัน ของทาง คุณเรือนขวัญ

มาเปลี่ยนพื้นที่รกๆริมรั้ว เป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัวกันดีกว่า ..By คุณเรือนขวัญ 

สวัสดีค่ะ มาเยี่ยมเยือนกันคืนวันจันทร์พร้อมกับสายฝนที่โปรยปราย กระทู้นี้ขอนำข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ จากการจัดสวนมุมเล็กๆ ในบ้านหลังน้อยๆ มาฝากกันค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังปลูกต้นไม้รับหน้าฝนกัน

โจทย์ในการจัดสวนของเราครั้งนี้ยากไม่แพ้มุมแรกแถมเหนื่อยมากขึ้นเพราะพื้นที่กว้างกว่า จุดนี้จะเป็นบริเวณหน้าบ้าน ติดกับหน้าห้องรับแขก ด้านนึงจะเป็นรั้วบ้านอยู่ริมถนน อีกด้านจะติดกับรั้วเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นครัวหลังบ้านของเค้าพอดี

จัดสวนข้างบ้าน

สภาพสวน ณ วันนี้ ต้นไม้เริ่มฟื้นตัว ผลิใบอ่อน สีสวยๆ

จัดสวนข้างบ้าน

มาดูสภาพก่อนจัด ว๊ากนี่มันบ้านคนหรือทะเลทราย

จัดสวนข้างบ้าน

หน้าห้องรับแขก ยังรกๆ อยู่บ้าง น้องหมูตัวนี้ผ่านร้อนผ่านหนาว อยู่บ้านเรามาหลายปีแต่ยังไม่มีเวลาขัดสีฉวีวรรณให้เค้าเลยค่ะ ตัวดำเชียว

จัดสวนข้างบ้าน

ถึงจะรกบ้างไรบ้าง แต่ก็น่าจะดูดีกว่าสภาพนี้ (ก่อนจัด)

จัดสวนข้างบ้าน

ขั้นตอนการจัดก็เหมือนเดิม คืออย่างแรกเราสำรวจและวัดขนาดพื้นที่ ดูว่ามีต้นไม้เดิมอะไรที่พอจะใช้ได้บ้าง ต้นไหนโทรมถึงเวลาต้องโละทิ้ง สรุปที่เก็บไว้ก็คือต้นโมกเก่าแก่ที่ปลูกไว้มุมบ้าน หมากผู้หมากเมียที่อยู่โคนต้น และต้นชมนาดที่เป็นซุ้มอยู่หน้าบ้าน

แผนผังสวนมุมที่สอง

จัดสวนข้างบ้าน

ขอบอกว่าต้นโมกนี่เป็นอะไรที่อด ทน ถึกมาก เพราะเราฝากเทวดาเลี้ยงตลอด ไม่ค่อยได้รดน้ำ ใส่ปุ๋ยอะไรให้เค้าเลย นานๆ ก็เอากรรไกรไล่แง๊บๆ ใบที่มันห้อยๆ ลงมาบ้าง แถมโรคและแมลงก็ไม่ค่อยรบกวน เรียกว่าคุ้มค่าและคู่ควรกับการปลูกไว้ในบ้านมาก เพราะเค้าออกดอก ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมาให้ชื่นใจตลอดค่ะ

เก็บต้นโมกเก่าแก่นี้ไว้เป็นไม้ประธาน

จัดสวนข้างบ้าน

ต้นไม้ที่เราตัดสินใจโละทิ้งก็คือต้นหนวดปลาหมึกด่างแคระ (น่าสงสารนะเนี่ย ทั้งแคระและด่าง แถมถูกทิ้งอีก) เหตุผลคือ ปลูกมานานแล้วเราไม่ค่อยได้ดูแลตัดแต่ง ทำให้เค้าไม่เป็นพุ่ม แตกกิ่งก้านสาขาเกะกะไปทั่ว ด้วยขนาดใบ และทรงต้นที่เก้งก้าง ทำให้บริเวณสวนแคบๆ นี้ดูรกและอึดอัดไปนิด

โละหนวดปลาหมึกทิ้งไป ได้น้องหมูหวานมาวางแทน

จัดสวนข้างบ้าน

วัดขนาดพื้นที่เรียบร้อย เราก็มาเขียนผังคร่าวๆ ว่าจะปลูกอะไรตรงไหน จะได้เตรียมพื้นที่ได้ถูก จุดประสงค์ของการจัดสวนมุมนี้ คืออยากได้ ที่นั่งเล่นช่วงบ่ายๆ (มุมนี้อยู่ทางทิศตะวันออก โดนแดดช่วงเช้าครึ่งวันค่ะ) และต้องการความเป็นส่วนตัวนิดนึง เราก็เลยต้องเฟ้นหาต้นไม้ มาปลูกลงแนวรั้วเพื่อบังสายตา

หลังจากนั่งหลังขดหลังแข็งหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ก็ได้รายชื่อต้นไม้ริมรั้วเข้ารอบมาสามต้นคือ ไทรเกาหลี คริสติน่า (ชื่อฟังดูกิ๊บเก๋มากค่ะ) และสุดท้ายคือต้นโมก ในดวงใจ นั่งอ่านข้อมูลเปรียบเทียบลักษณะนิสัย ใจคอของแต่ละต้น ป่านประหนึ่งว่าจะหาคู่ (เวอร์ไปนะ)

ยอดอ่อนๆ ของคริสติน่า สีส้มๆ อมแดง

จัดสวนข้างบ้าน

สุดท้ายก็มาลงตัวที่ว่าใช้ต้นโมกปลูกชิดรั้วหน้าบ้านแล้วกัน แบบว่าร่มก็ได้ แดดก็ดี ส่วนด้านที่ติดกับกำแพงเพื่อนบ้าน ลงคริสติน่าดีกว่าเพราะบริเวณนี้จะได้แดดช่วงเช้าเลยไปถึงบ่ายนิดๆ ใบเค้าจะได้สีสวยๆ ช่วยทำให้พื้นที่เล็กๆ เราดูสว่างขึ้น ส่วนไทรเกาหลีนี่ ขอเก็บไว้ในใจลึกๆ ก่อนแล้วกัน เพราะยังไม่แน่ใจ ว่าจะไปกันได้กับรูปแบบสวนของเรา ซึ่งเต็มไปด้วยโอ่ง อ่าง กระถางแตกหรือป่าว

ด้านหน้าห้องรับแขก ซึ่งตอนนี้มีต้นหนวดปลาหมึกอยู่ เราตั้งใจจะเปลี่ยนเป็นไม้พุ่มเล็กๆ สีสว่างๆ เพื่อทำให้ดูไม่อึดอัด แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะลงต้นอะไร จัดไป คิดไป หาข้อมูลไปเรื่อยๆ

ไม่มีใครกล้าติแน่ว่าจัดสวนไม่เป็นสับปะรด เพราะเราปลูกแต่สับปะรด

จัดสวนข้างบ้าน

ไปเที่ยวชาร์ตแบตพอมีแรง กลับมาจัดสวนต่อ เนื่องจากต้องใช้ต้นไม้ปลูกริมรั้วหลายต้น เลยตัดสินใจขับน้องแดงน้อย ฮอนด้าแจ๊ส ไปชอปปิ้งต้นไม้แถวรังสิตคลอง 15 ความสนุกและความปวดหัวของการจัดสวนเองอยู่ตรงนี้หละค่ะ เพราะตอนไปเดินดูต้นไม้นี่ ต้นอะไรก็สวย อยากได้ไปซะหมด ถ้าไม่หักห้ามใจตัวเองนี่ สงสัยหมดตัวได้ต้มใบไม้กินแทนข้าวแน่

นานๆ มาที ซื้อให้คุ้ม

ได้ต้นโมกสูง 1 ม. มา 16 ต้น และต้นคริสติน่าสูง 50 ซ.ม 12 ต้น จริงๆแล้วอยากซื้อต้นที่สูงกว่านี้นะคะ แต่ติดที่ไม่มีรถใหญ่ขน ทางร้านไม่ส่งให้เพราะซื้อไม่เยอะ ก็ขนเท่าที่ใส่รถได้ค่ะ นอกจากไม้ริมรั้วแล้ว

ก็ได้ไม้คลุมดินถุงเล็กๆ พวกกำแพงเงิน ซุ้มกระต่ายด่าง ฤาษีผสม ดาดตะกั่ว พ่วงมาด้วยพุดเวียดนามและพุดด่าง (สองต้นหลังนี่ไม่อยู่ในรายการ แต่อดใจไม่ได้) คุณแฟนเลิกงานมาถึงบ้าน เปิดรถได้ร้องจ๊าก น้องแดงน้อย ขนของหน้าเชิดมาเชียวนะ

ยัดต้นไม้มาเต็มที่ ขับมาในสภาพที่มองกระจกหลังไม่เห็น เยี่ยมมาก (อันตรายนะคะ ไม่แนะนำให้เลียนแบบ)

ยัดต้นไม้มาเต็มที่ ขับมาในสภาพที่มองกระจกหลังไม่เห็น

ขนลงจากรถแล้ว ยกมาพักไว้แถวๆ มุมกาแฟริมรั้ว เพราะปลูกไม่ทัน มุมนี้เลยกลายเป็นสวนป่าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ทยอยเอาต้นโมกลงดินก่อน

อาทิตย์ถัดไปก็ทยอยเอาต้นโมกลงดินก่อน ปลูกห่างกันต้นละ 30 ซ.ม 16  ต้นก็พอดีกับแนวรั้ว เสาร์ อาทิตย์นี่เป็นช่วงเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่รับนัดใครทั้งสิ้น เพราะบ้าจัดสวนอยู่

ทยอยเอาต้นโมกลงดินก่อน

ลงโมกเสร็จ ก็เป็นคิวของคริสติน่า พุ่มเค้าจะใหญ่กว่าต้นโมก เราปลูกห่างกันประมาณ 35 ซ.ม คำนวณพลาดไปนิด สรุปว่าใช้ไป 9 ต้นเหลืออีก 3 ต้น

ซื้อขนาดเล็กเกินไปไม๊เนี่ย ความสูงยังไม่ได้ถึงครึ่งรั้วเลยอ่ะ แต่คนขายบอกว่าต้นนี้โตเร็ว งั้นร้องเพลงรอไปเรื่อยๆ ก่อน

ลงต้นไม้ริมรั้ว

ลงต้นไม้ริมรั้วเสร็จแล้ว ก็ถึงคิวของการปรับพื้นเพื่อปูทางเดิน ของเดิมเคยปูด้วยอิญดินเผาก้อนใหญ่ แต่เวลาฝนตก ตะไคร่จับแล้วลื่นมาก ทั้งคนและหมาบ้านนี้ ลื่นหน้าคะมำกันไปหลายรอบ พอจัดสวนใหม่ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนแผ่นทางเดินเป็นศิลาแลง เดินสบายไม่ลื่น แต่คนจัดสวนหลังยอกเลย เพราะแต่ละแผ่นหนักไม่ใช่เล่น

พยายามปรับพื้นให้เอียงลงไปตรงมุมรั้วเพราะเป็นท่อระบายน้ำพอดี

ให้น้องชายช่วยขนใส่ปุ้งกี๋มากองไว้ที่พื้น

ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะวางแผ่นศิลาแลงให้เต็มบริเวณนี้ แต่พอปูไปได้ครึ่งนึง รู้สึกว่าทึบและแข็งไป ก็เลยลองหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตดู ไปถูกใจกับหินทรายลูกเต๋าเข้า มีร้านขายไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่ เลยขับรถไปซื้อมาลองวางดู 20 ก้อน ก้อนละ 15 บาท แล้วอาทิตย์ถัดไปก็วิ่งไปซื้อมาอีก 80 ก้อน เรื่องของเรื่องคือไม่เคยใช้เจ้านี่ปูพื้นเลย กะจำนวนไม่ถูก ได้มาแล้วค่ะ ให้น้องชายช่วยขนใส่ปุ้งกี๋มากองไว้ที่พื้น แล้วค่อยๆ นั่งเรียงไปเรื่อยๆ

ลูกเต๋าปูยาก

ไม่รู้คิดถูกคิดผิดฟระเนี่ย  เพราะไอ้เจ้าลูกเต๋านี่ปูยากมาก ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นหินละคะ ขนาดของมันก็เลยไม่สม่ำเสมอ มีเล็ก ใหญ่ สูงต่ำ สลับกันไป ไม่รู้มืออาชีพเค้าทำไงกัน แต่อิฉันใช้วิธีจับวางไปทีละก้อน เลือกเอาก้อนที่ขนาดไล่ๆ กัน ลองวางดู ขุดทรายออก กะให้ขอบพอดีกับศิลาแลง ได้ระดับแล้ว ยกหินออกก่อนแล้วปูตาข่ายพลาสติกรองพื้น วางหินลงไปใหม่ ก้อนไหนเตี้ยไป เราก็ตักทรายโรยลงไปด้านล่าง อัดๆ ให้ได้ระดับ

วางตาข่ายลงก่อน

ตอนแรกตั้งใจเรียงให้เป็นรูปดอกไม้สี่ดอก แต่คิดไปคิดมาแล้ว ช่องว่างเยอะก็เปลืองกรวดอีก เลยเปลี่ยนใจออกมาเป็นแบบนี้ เสียเวลาตรงนี้เกือบสองอาทิตย์ เพราะไม่เคยทำ เลยคำนวณอุปกรณ์ไม่ถูก เดี๋ยวตาข่ายหมด เดี๋ยวหินศิลาแลงไม่พอ สุดท้ายกรวดไม่พออีก อ๊ากกว่าจะเสร็จ วิ่งไปวิ่งมาจนเจ้าของร้านขายหินจำหน้าได้

ใส่กรวดอัดไปตามร่องแล้ว

แต่พอเรียงเสร็จ ใส่กรวดอัดไปตามร่องแล้ว เออแฮะก็พอดูได้อยู่นะ สีเหลืองๆ และม่วงอมชมพูของหินลูกเต๋า ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูนุ่มนวลขึ้นเป็นกอง

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าการทำพื้นแบบนี้ เหมาะกับพื้นที่เล็กๆ นะคะ เพราะต้องใจเย็นๆ ค่อยๆปรับพื้นให้ดีๆ ไม่งั้นมันดูกระโดกกระเดก และไม่ควรเป็นพื้นที่ใต้ต้นไม้ที่มีใบร่วงมาก เพราะจะกวาดลำบาก กรวดที่ใช้โรย เป็นกรวดขนาดเล็ก เพื่อจะได้ดูไม่ขรุขระ หรือดูอึดอัดเกินไป

เสร็จแว้ว ไม่ค่อยเรียบเท่าไหร่ พอทนดูได้

ปลูกต้นฤาษีผสมล้อมไว้แบบหลวมๆ

ปูพื้นเสร็จแล้ว มีกำลังใจขึ้นอีกนิด ตอนนี้เรามาจัดการปลูกต้นไม้คลุมดินกันค่ะ ตรงมุมรั้ว เรายกไหสมบัติเก่ามาวาง ปลูกต้นฤาษีผสมล้อมไว้แบบหลวมๆ รอให้เค้าโตเป็นพุ่ม ใบจะได้แผ่คลุมดิน

ไอ้เจ้าฝาครอบโอ่งนี่ไม่ใช่ของแต่งสวนนะคะ อันที่จริงเป็นจานรองกระถาง ที่เราประยุกต์หยิบมาเป็นฝาครอบโอ่งชั่วคราว แบบว่าไม่อยากให้ฝนตกแล้วน้ำขังในโอ่ง เดี๋ยวจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธ์ยุงไปซะเปล่าๆ หมดฝนค่อยยกออก ตอนนี้ก็ทนๆดูไปก่อน

ฝาครอบโอ่งชั่วคราว

ตามแนวต้นคริสติน่า ยืนเล็งอยู่นานว่าจะลงอะไรคลุมดินดี สุดท้ายตัดสินใจไปสอยต้นเตยหอม มาแปดกระถาง เพื่อมาลงโคนต้น ฝันหวานว่าจะตัดใบเค้า ไปทำน้ำใบเตยตอนโตแล้ว กำลังก้มๆ เงยๆ ปลูกต้นไม้

เพื่อนบ้านมาเกาะรั้ว ส่งกล้วยบวดชีให้ลองชิม คิดอะไรไม่ทัน เลยคว้าเตยหอมกระถางนึงให้เค้าไปปลูก เพราะใบใช้ทำขนมได้ (แล้วเราจะรอชิม อิอิ อันนี้คิดในใจนะเคอะ)

พื้นโล่งๆ ก่อนลงเตยหอม

เตยหอม

เสร็จแว้ว สรุปว่าใช้เตยหอมไปเจ็ดกระถาง

มุมซ้ายเสร็จ เราย้ายมามุมขวากันบ้าง

จุดนี้เราพยายามหาต้นไม้ที่มีใบเป็นเส้นยาวๆ มาลง เพื่อพรางตาให้พื้นที่ดูไม่แคบมาก ได้ต้นไอริสมาสิบต้น แบ่งมาลงตรงโคนต้นโมกนี้เจ็ดต้น ด้านหน้าลงต้นกำแพงเงิน อาศัยความด่างๆ นี่แหละค่ะ ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับสวน พยายามปลูกให้เป็นแนวโค้ง

เว้นพื้นที่ว่างๆ ไว้บ้างเพื่อไม่ให้ดูอึดอัดและเผื่อต้นไม้โต ไปยกก้อนหินที่เหลือๆ ในบ้านกับกรวดครึ่งถุงมาโรยปิดหน้าดินบางส่วนไว้

เตยหอม

ขยับไปอีกนิด ลงต้นหัวใจม่วงเป็นแนวโค้งๆ เหมือนกัน ด้วยความงก เลยซื้อมาแค่สองกระถาง แล้วแกะๆ ออกจากกระถางมาจิ้มไว้ ได้ข่าวว่าคุณเธอเป็นไม้เลี้ยงง่าย โตเร็ว ไม่งอแง น่าคบเป็นที่สุด หลังจากนั้นให้น้องชายช่วยแบกก้อนหินจากหน้าบ้าน มาโยนลงตรงนี้ไว้เป็นของแต่งสวน

มาดูกันว่าเมื่อไหร่เค้าจะโตคลุมพื้นบริเวณนี้หมด

ของแต่งสวน

ขยับก้นมาอีกนิด ยังเหลือพื้นที่เล็กๆ ก่อนถึงประตูหน้าบ้าน เริ่มจะหมดมุกแล้ว ลงอะไรดีละเนี่ย หันไปเห็นไอริสอีกสามถุง ได้ทีเลย ลงไว้ชิดแนวรั้ว แล้วกัน จากนั้นไปยกเจ้าเล็บครุทด่างแคระ มาลงด้านหน้า เห็นแม่ค้าบอกว่าต้นนี้โตช้า น่าจะเหมาะกับพื้นที่แคบๆ นะเราว่า

เล็บครุทด่างแคระ

เนื่องจากจุดนี้อยู่ริมทางเดินแคบๆ ใกล้ประตูเข้าบ้าน เราเลยไม่อยากปลูกไม้พุ่มใหญ่ กลัวจะเกะกะระทางเดิน ตัดสินใจไปกลิ้งขอนไม้เก่าแก่ในบ้านมาลองวาง อยากลองแหวกแนวดูบ้าง จับวางแนวนอนแทนแล้วกัน ตรงขอบๆ ลงต้นปีกแมลงสาบปิดหน้าดินไว้

ต้นปีกแมลงสาบ

ด้านหน้านี่ยัดสับปะรดสีทั้งต้นเล็กและต้นใหญ่ไว้ รอดูอาการก่อนว่าจะอยู่รอดไม๊ เพราะตรงนี้โดนแดดช่วงสายๆ ไม่ถึงกับร่มรำไร ด้านในซึ่งร่มหน่อย เพราะอยู่ใต้ซุ้มต้นชมนาด เราวางต้นกนกนารีและเฟิร์นใบมะขาม ปิดรอยต่อของก้อนหินไว้ จัดไว้แบบหลวมๆ เผื่อต้นไม้โตด้วยค่ะ

มุมนี้น่าจะเรียกว่ายัด มากกว่าจัดนะคะเนี่ย

ขอนไม้

ทิ้งไว้หนึ่งอาทิตย์ กลับมาดูผลงาน ไม่รอดค่ะ สับปะรดสีชมพู ใบไหม้ไปเรียบร้อย เลยต้องย้ายออกไป อยากได้ไม้ใบเป็นเส้นๆ สีเขียว มาลง เพื่อจะได้ตัดกับสีของหัวใจม่วง ออกไปร้านต้นไม้ หาต้นซุ้มกระต่ายเขียว วนไปวนมาไม่มีขายซักร้าน ทำไมหายากยังงี้เนี่ย น่าจับขึ้นหิ้งจริง

สุดท้ายทนเสียงเชียร์แม่ค้าไม่ไหว เลยได้ต้นซุ้มกระต่ายด่างมาแทน มุมนี้เลยออกมาลายพร้อยอย่างที่เห็น
พอทนดูได้เนอะ

ซุ้มกระต่ายด่าง

ลงไม้คลุมดินครบแล้ว ได้ฤกษ์ยกโซฟาไม้ออกมาตั้ง ข้างๆ โซฟาเราตั้งมะเขือการ์ตูนไว้ดูเล่น ลูกเค้าสวยดี พยายามรดน้ำใส่ปุ๋ย เพราะอยากให้เค้าออกลูกเยอะๆ จะได้เก็บเมล็ดมาเพาะต่อ ไม่รู้จะรอดรึป่าว มะเขือแบบนี้ ถ้าบ้านใครมีเด็กนี่ไม่แนะนำให้ปลูกนะ เพราะหนามเยอะค่ะ

ถัดจากมะเขือการ์ตูน เป็นพุดศุภโชค ซึ่งตอนแรกปลูกไว้หน้าบ้าน แต่ก็มีอันต้องระเห็จมาอยู่ตรงนี้ เพราะรูปทรงของเธอ สวยกลมป้อม สวยไม่เข้าใครออกใคร พูดง่ายๆ ไม่เข้าพวกนั่นเอง

มุมนั่งเล่นส่วนตัว เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแว๊ว

มุมส่วนตัว

อีกด้านของโซฟา เรากลิ้งหินทรายสี่เหลี่ยมทีเหลืออยู่ในบ้าน มาวางไว้ข้างๆ เพื่อใช้แทนโต๊ะ เอาไว้วางหนังสือ บวกของกินเล็กๆ น้อยๆ ตอนนั่งเล่น ถึงตอนนี้คุณแฟนแอบบ่นว่า เอาโต๊ะไม้ดีๆ มาตั้งข้างนอก เดี๋ยวก็ผุหมด น่าจะไปหาเก้าอี้หินอ่อนมาวางแทน อิอิ รับทราบค่า แต่ขอตั้งไว้ก่อนนะ เดี๋ยวค่อยหาใหม่

ปล. โซฟาตัวนี้สั่งทำเพื่อใช้นอกบ้าน แต่ก็ต้องทำใจ ด้วยสภาพอากาศบ้านเรา คงจะอยู่ไม่ทนเหมือนวัสดุอื่น

มุมนั่งเล่น

ยังค่ะ ยังไม่จบง่ายๆ ยังเหลือมุมปราบเซียนอีกมุมนึง ที่เราจัดยังไงก็ไม่ลงตัว ขุดๆ ย้ายๆ มาหลายรอบแล้ว มุมหน้าประตูบ้านตรงนี้แหละคะ ทั้งเล็กและแคบ แถมโดนแดดแค่ครึ่งวัน ลงไม้ใหญ่ไม่ได้ เพราะจะเกะกะหน้าประตู ลงไม้ชอบร่มก็ไม่ได้ เพราะใบจะไหม้ จะลงไม้ดอกก็กลัวจะไม่สวย เพราะได้แสงแดดแค่ครึ่งวัน เยอะเนอะ เงื่อนไขนะ

ตอนแรกเราลงพุดศุภโชคไว้ต้นนึง มีดอกให้เห็นบ้าง แต่ปัญหาคือ ไอ้ทรงกลมๆ ป้อมๆ ของเค้านี่หาต้นไม้อื่นมาปลูกรวมให้เข้ากันยากนะ ประมาณว่าชั้นขอสวยเด่นอยู่คน เอ้ยต้นเดียว สุดท้ายก็ต้องโดนย้ายไปอยู่ในกระถางข้างโซฟาตามรูปที่เห็นด้านบน

เก้าอี้ไม้

เดินไปเดินมา เห็นตอไม้และอ่างน้ำเก่าแก่ที่แต่เดิมเราทำเป็นน้ำรินไว้ แต่ตอนหลังกลายเป็นอ่างอาบน้ำของน้องหมาไป ก็เลยต้องชักปลั๊กออก เพราะไม่อยากเห็นหมาโดนไฟช็อต (สงสัยจะแอบน้อยใจเจ้านาย เลยชวนกันหนีไปสวรรค์หมดแล้ว) สุดท้ายตอไม้น้ำรินของเราตอนนี้ กลายเป็นตอไม้แห้งๆ ให้ต้นเงินไหลมาปีนเล่น

ตัดสินใจขุดขึ้นมาทำความสะอาด ราดน้ำยากันปลวก แล้วเรียกน้องชายมาช่วยยกไปวางหน้าบ้าน ขยับหามุมเหมาะๆ วางให้มั่นคงแล้วก็เริ่มลงมือเปลี่ยนมุมนี้เป็นสวนแนวตั้ง

หลังจากนั้น ไปเสาะหาต้นสับปะรดสี เน้นแบบที่เลี้ยงโดดแดดได้และต้นเล็กๆ ลองเอากระถางเสียบไว้กับตอไม้ ถ้าอยู่ได้ไม่มีปัญหาแล้วค่อยหาเชือกมาผูก ตอนซื้อถามคนขายว่าสับปะรดสีแบบนี้เรียกว่าอะไร คนขายบอกว่ามันคือ บรอมมีเลียด โธ่ช่วยได้มากเลยนะเนี่ย

กลับมาค้นรูปจากอินเตอร์เน็ต เข้าใจว่าต้นนี้น่าจะเป็นพันธุ์ Neo Donger พอจะทนแดดได้ซักครึ่งวัน หวังว่าจะรอด.

ลองลงต้นซุ้มกระต่างด่างและฤาษีผสมแคระรอบขอนไม้ แล้วไปยกกุหลาบหินและสับปะรดสีมาวางรวมกัน ออกมาประมาณนี้ ดูรุงรังไปนะ ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่

ต้นซุ้มกระต่างด่างและฤาษีผสมแคระรอบขอนไม้

อาทิตย์ถัดไป ย้ายซุ้มกระต่ายด่างและฤาษีผสมออก ไปยกโอ่งดินเผารั่วๆ หลังบ้านมา (ใบนี้ขังน้ำไม่อยู่ เลยทิ้งไว้เฉยๆ เกือบจะโดนทุบทิ้งแล้ว) จับวางเอียงๆ ล้อมด้วยสับปะรดสีทั้งกระถางเล็กและใหญ่  ขยับโน่นนี่นั่น จนได้ระดับ ลงหลิวเลื้อยคลุมพื้น ปิดรอยต่อด้วยกรวดก้อนใหญ่ๆ และหนวดปลาดุก ย้ายดาดตะกั่วออก รอเวลาให้หลิวเลื้อยโตคลุมดิน จะได้ดูเขียวๆ นุ่มๆ

ต้นหลิว

ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ หลิวต้นนึงออกอาการไม่ดี ใบร่วงเกือบหมด เราเอากรรไกรเล็มกิ่งแห้งๆ ออก เหลือกิ่งที่มีใบเขียวอยู่กิ่งเดียว ตรงนี้เลยดูแหว่งๆ มาลุ้นกันค่ะว่าน้องหลิวต้นนี้เค้าจะรอดหรือป่าว

มุมนั่งเล่น

ใช้เวลาขลุกอยู่กับสวนมุมนี้กว่าสองเดือนครึ่ง และแล้วมุมนั่งเล่นของเราก็เป็นรูปเป็นร่าง แดดร่มลมตก ถือเครื่องดื่มเย็นๆ มานั่งจิบ พร้อมอ่านหนังสือเล่มโปรด ลมยามเย็นพัดกลิ่นดอกโมกและชมนาด หอมอ่อนๆ ชื่นใจ แต่บางวันก็จะมีกลิ่นปลาเค็มจากครัวเพื่อนบ้านแถมมาด้วย ให้ชีวิตพอมีรสชาติปะแล่มๆ

เห็นอย่างงี้แล้ว อดฮัมเพลง…บ้านเรา…แสนสุขใจ ซะไม่ได้ หวังว่าคงพอเป็นไอเดีย เริ่มต้นได้ไม่มากก็น้อย

อ่านเพิ่มเติม ที่เที่ยวภูเก็ต phuket property PHUKET VILLA VILLA FOR SELL VILLA FOR RENT SALE VILLA ขายบ้านภูเก็ต บ้านใหม่พร้อมขาย การจัดสวน สวนหย่อม