ความนิยมภายในบ้าน

ความนิยมภายในบ้าน สไตล์การตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยม

ความนิยมภายในบ้าน pool villa ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยๆที่กำลังพึงพอใจ ต้องการจะตกแต่งห้อง แม้กระนั้นก็ยังงงเต็กไม่ทราบว่าจะเลือกการตกแต่งสไตล์ไหนดี แบบไหนที่จะตอบปัญหากับไลฟ์สไตล์พวกเราที่สุด วันนี้พวกเราจะพามารู้จัก กับ 10 สไตล์การตกแแต่งบ้าน ที่ได้รับความนิยม ชื่นชอบแบบไหนอาจจะต้องขึ้นกับมุมมองของแต่ละคน รักแบบไหนถูกใจแบบไหน ทดลองไปดูกันเลยค่ะ

1. CLASSIC STYLE

สไตล์คลาสสิคเป็นสไตล์ที่ย้ำความสวยหรู มากยิ่งกว่าผลดีใช้สอย pool villa การจะก่อให้รู้สึกหรูหรา ก็เลยนิยมดีไซน์ห้องให้มีขนาดใหญ่กว่าธรรมดาหรือทำฝ้าเพดานสูงๆการเปลี่ยนบ้านให้เป็นสไตล์คลาสสิคก็เลยเหมาะสมกับบ้านที่มีพื้นที่กว้างๆรวมทั้งมีฝ้าเพดานที่ออกจะสูง

การใช้อุปกรณ์ของสไตล์คลาสสิค จุดแข็งของการแต่งบ้านสไตล์คลาสสิคเป็นการใช้ที่เป็นสิ่งของธรรมชาติ สำหรับพื้นจะนิยมใช้หินอ่อน หินแกรนิต หรือ บางครั้งบางคราว ก็จะใช้พื้นหินขัด 5 รีสอร์ท จังหวัดภูเก็ต ที่ลักษณะผิวค่อนข้างจะมันวับเพื่อมองหรูหรา

การใช้โทนสี รวมทั้งการตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ Classic Style โดยส่วนมากจะย้ำสีที่แสดงออกถึงความสวยหรู หรูหรา ซึ่งชุดสีที่ใช้จะอยู่ในโทนอบอุ่น หรือ Warm Tone สีสำคัญๆ

ที่เพื่อนฝูงๆประสบพบเห็นได้บ่อยมากตัวอย่างเช่น สีทองคำ,สีน้ำตาล, สีส้ม, สีแดง, สีครีม ฯลฯ การใช้ วอลเปเปอร์

บ่อยที่เจอจะมาในแบบลวดลายที่ตระการตา ประดับประดาลายกลอุบายเครือเถาต่างๆจนกระทั่งไปถึงมีเลื่อมทองคำประดับประดาอยู่ในผิวของวอลเปเปอร์

ที่สามารถเพิ่มบรรยากาศของห้องให้มีความหรูหราเลิศเลอ โอ่อ่า ประณีตยอดเยี่ยม ได้อย่างดีเยี่ยม

2. LOFT STYLE

LOFT สไตล์โก้ๆที่มีต้นแบบมาจากโรงงานหรือคลังสินค้าในยุคเก่า เน้นย้ำโทนสี นํ้าตาล ขาว เทา ดำ โดยจะย้ำส่วนประกอบของสถาปัตยกรรมด้านในเป็นหลัก

ตั้งแต่แนวทางการทำองค์ประกอบของตึก องค์ประกอบหลังคา pool villa ส่วนประกอบของเพดาน เสา รวมทั้งเหล็กต่างๆให้มองมีความดิบ โดยจัดวางพื้นที่แบบสดใส

การตกแต่งสไตล์ลอฟ์ทเน้นย้ำการเปิดพื้นที่ให้โล่งกว้าง ลักษณะซึ่งคล้ายๆกับคลังสินค้าหรือโรงงานที่มีเพดานสูงๆเพื่อระบายอากาศเจริญ

รวมถึงทำให้บรรยากาศในบ้านมองแจ่มใสและก็สว่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 5 รีสอร์ท จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งเมื่อเอามาดัดแปลงกับการออกแบบข้างในบ้าน

ควรจะทำพื้นที่ด้านล่างให้เปิดเตียนไปจนกระทั่งชั้นลอยหรือพื้นที่ใต้หลังคา บางเวลาบางทีอาจกรุฝ้าเพดานให้สูงเอียงไปตามโครงหลังคาตามสมควรด้วยเหมือนกัน

สไตล์ลอฟ์ทย้ำประเด็นการจัดวางตำแหน่งข้าวของตกแต่ง ด้วยเครื่องเรือนแบบลอยตัว ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ซึ่งสามารถชูหรือสบายต่อการย้ายที่

ถึงแม้ว่าจะเครื่องเรือนแบบติดล้อ เพื่อไม่ยุ่งยากต่อการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ได้อย่างมากมาย ลักษณะของเครื่องเรือนส่วนมากเป็นแบบเรียบง่ายหรือบิ๊วอินท์ที่มีน้อยชิ้น

แต่ว่าคุณประโยชน์ใช้สอยเยอะแยะ สิ่งของโดยมากทำมาจากไม้ หนังหรือเหล็กเพื่อกลมกลืนกับองค์ประกอบของบ้าน

3. MINIMALIST STYLE

การตกแต่งบ้านในสไตล์ Minimal เป็นสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย ใช้เครื่องเรือนน้อยชิ้น แต่ว่ามากมายด้วยคุณประโยชน์ รวมถึงการเลือกใช้งานสิ่งต่างๆตามความจําเป็นเพียงแค่นั้น

ซึ่งจะถูกจัดวางอย่างมีระบบระเบียบเป็นระเบียบเรียบร้อย เอกลักษณ์สำหรับในการตกแต่งสไตล์ไม่นิมอลนั้นมักจะมีโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อนๆรวมทั้งการออกแบบ

อารมณ์ของโทนสีของก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรจะให้ความเอาใจใส่ โทนสีของบางทีอาจอยู่ในโทนสีแบบโมโนโทนก็มองงามเก๋พอได้

หรือบางทีอาจเน้นย้ำพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งให้มีความสะดุดตาหรือสีจัดจ้าน สำหรับสไตล์ Minimal มิได้มีโทนสีที่ เฉพาะ

แต่ว่าโดยส่วนมากแล้วจะย้ำไปที่สีพื้นอย่าง ขาว ดำ เทา ฯลฯ เนื่องจากให้ความรู้ความเข้าใจสึกที่ค่อย ไม่บาดตาเกินความจำเป็น แม้กระนั้นก็สามารถใช้สีโทนอื่นได้เช่นเดียวกัน

แม้กระนั้นให้คุมโทนไว้สามเฉดหมายถึงสีแก่ สีกึ่งกลาง แล้วก็สีอ่อน ตัวอย่างเช่นเลือกสีดำเป็นสีแก่ สีขาวเป็นสีอ่อน ด้วยเหตุนั้นสีกึ่งกลางเป็นสีเทา

เลือกเครื่องเรือนที่มีฟังก์ชั่นการใช้แรงงานที่มากมาย pool villa นิยมแบบเรียบในหนึ่งชิ้นสามารถใช้ได้หลายหน้าที่ ดังเช่น เลือกซื้อตู้โชว์ซึ่งสามารถเป็นชั้นหนังสือ

รวมทั้งชั้นวางโทรทัศน์ได้ด้วย เลือกเตียงที่มีช่องเก็บของเล็กๆใต้เตียง ฯลฯ รวมทั้งวิธีสำหรับการเลือกซื้อเครื่องเรือนควรจะซื้อเฉพาะเท่าที่มีความจำเป็นและก็คุมโทนสีของ

เครื่องเรือนแต่ละชิ้นด้วย แล้วก็มักเลือกใช้สีขาว หรือสีสันค่อนข้างจะขรึม เพื่อบ้านมีบรรยากาศที่มองเรียบ สงบ และก็บรรเทา

4. SCANDINAVIAN STYLE

การตกแต่งสไตล์สแกนดิเนเวีย (scandinavian) เหมาะสมกับผู้ที่รักการแต่งห้องในสไตล์เรียบง่าย อบอุ่นรวมทั้งสนิทสนมธรรมชาติ มีลักษณะเด่นเป็นการเลือกใช้เครื่องเรือน

รวมทั้งของแต่งห้องจากธรรมชาติเป็นหลัก 5 รีสอร์ท จังหวัดภูเก็ต มีการดีไซน์ตกแต่งที่มองสะอาดรวมทั้งเรียบง่าย ทำให้ห้องของพวกเราน่าอยู่

การแตกแต่งห้องแบบสไตล์สแกนดิเนเวียโทนสีที่เลือกใช้จำนวนมากเป็น โทนสีแบบเอิร์ธโทน เป็นโทนสีที่เอาอย่างสีของธรรมชาติ

ตัวอย่างเช่น โทนสีสว่าง โทนสีขาวเทา โทนสีน้ำเงินอมเขียว ก็เป็นโทนสีที่นิยมใช้สำหรับการวางแบบตกแต่ง เนื่องจากแสดงถึงความยุติธรรมชาติของสแกนดิเนเวียได้อย่างกลมกลืน

การตกแต่งด้านในของห้องสไตล์สแกนดิเนเวียจะย้ำการใช้ฟังค์ชั่นที่เรียบง่าย ใช้งานง่าย ตัดทอนสิ่งที่ไม่มีความสำคัญออกไป เนื่องจากว่าความธรรมดารวมทั้งความโปร่งสบายโล่งเตียนของห้องเป็นข้อดีของการตกแต่งห้องสไตล์นี้

ฉะนั้น การใช้ฟังค์ชั่นที่มีการดีไซน์เรียบง่ายจะยิ่งทำให้ภาพรวมของห้องไม่มองวุ่น แล้วก็มองงดงามอีกด้วย

5. LUXURY STYLE

บ้านสไตล์ luxury ที่สะดุดตาด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบและก็ประสานการตกแต่งด้วยสไตล์หฝ่าส์ ทำให้ทุกองศาด้านในภาย มองสวยงามหรา รวมทั้งตระการตายากจะหาใดเทียบเคียง

ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ ตะเกียง แล้วก็ลวดลายอันละเอียดลออที่เสริมแต่งแต่งแต่ว่าฝาผนังตลอดจนเพดาน สร้างความตระการตาให้แขกได้เป็นอันมากทีเดียว

ลักษณะการแต่งบ้านสไตล์ Luxury นั้นได้มีการปรับใช้มาจากการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นแรกเริ่ม 5 รีสอร์ท จังหวัดภูเก็ต ซึ่งการตกแต่งโมเดิร์นในแบบเดิมนั้นจะเน้นย้ำวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่มีความสำคัญ

ตัดส่วนที่ไม่มีความสำคัญออกไปจากตัวบ้าน ย้ำการตกแต่งโดยนึกถึงการใช้สอยเป็นหลัก มิได้เน้นไปที่ความหรูหราเลิศเลอเยอะเกินไป จะเน้นย้ำความคล่องตัวเสียมากกว่า

การใช้อุปกรณ์ผสมกันระหว่างความเป็นโมเดิร์นยุคใหม่ที่เน้นย้ำใช้ข้าวของทุกสิ่งให้มีความคล่องตัวให้กับความหรูหราเลิศเลอ ยกฐานะข้าวของแบบเดิมๆให้มองมีคุณค่าแพง รวมทั้งสร้างราคาที่ไม่อาจจะประเมินเป็นตัวเลขได้

พวกเราชอบมองเห็นโต๊ะ เก้าอี้แล้วก็โซฟาที่มาพร้อมด้วยการออกแบบให้เหนือกว่าการใช้แรงงานทั่วๆไป ทุกสิ่งทุกอย่างย้ำสร้างราคาความสวยหรูในตัวมันเองทั้งหมด

นอกนั้นบ้านสไตล์ Luxury ยังนิยมดัดแปลงอุปกรณ์จากหินอ่อน ที่มีความสวยหรูในตัว สามารถใช้ไม้เข้ามาผสม

ตอนที่บ้านแบบโมเดิร์นทั่วๆไปนั้นจะย้ำอุปกรณ์ที่ทำมาจากไม้หรือพลาสติกเพื่อเน้นย้ำการใช้แรงงานเพียงอย่างเดียว แม้กระนั้นการตกแต่งบ้านแบบ Luxury

นั้นมีความมากมายหลากหลายมากมายในเรื่องของอุปกรณ์ตกแต่งให้พวกเราเลือกแต่งได้ตามความพึงพอใจ

6. BEACH HOUSE STYLE

(Beach house style) เป็นการแต่งบ้านที่ไม่มีข้อจำกัดแน่นอน การออกแบบต่างๆขึ้นกับสไตล์ความพอใจของเจ้าของบ้าน โดยหลักสำคัญเป็น

การตกแต่งให้มีบรรยากาศของหาดทราย ให้ความรู้ความเข้าใจสึกราวกับอยู่ใกล้สมุทร เน้นย้ำให้มองเห็นถึงความงดงามของธรรมชาติ โดยจัดตกแต่งให้มีความสอดคล้อง มองสบายตา และก็ บรรเทา

การเลือกสีสำหรับในการตกแต่ง ซึ่งแน่ๆว่าเมื่อพวกเราจินตนาการถึงภาพริมหาด ทะเลแสนงาม สีแรกๆที่ผุดขึ้นมาก็น่าจะหนีไม่พ้น “สีฟ้า”

ถ้าเกิดคุณอยากบ้านที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกราวกับอยู่ริมหาดแล้วล่ะก็ สีฟ้าเป็นสีที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดเลยสำหรับการแต่งบ้าน ยิ่งกว่านั้นยังมีสีน้ำเงิน สีขาว สีน้ำตาล

ซึ่งสามารถใช้แต่งบ้านให้มองเป็นสไตล์บีชเฮ้าส์ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งคุณสามารถเลือกตกแต่งได้ตามความพอใจ ดังเช่น ถ้าเกิดบ้านของคุณมีฝาผนังสีขาวอยู่แล้ว

บางทีอาจเลือกลงสีฟ้ารอบๆขอบหน้าต่าง หรือหาผ้าม่านสีฟ้า หรือสีน้ำเงินมาตกแต่ง นอกนั้นยังสามารถนำเครื่องเรือนที่มีโทนสีฟ้า หรือ สีน้ำตาลมาตกแต่ง ฯลฯ

7. MODERN STYLE

บ้านสไตล์โมเดิร์น(Modern Style) เป็นลักษณะของบ้านอีกต้นแบบหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับการก่อสร้างในขณะนี้ การออกแบบลักษณะข้างในของบ้านสไตล์โมเดิร์น

จะเน้นย้ำความโล่งโล่งเตียน วางแบบเป็นหลักกลางแจ้ง ไม่นิยมการก่อฝาผนังกันมากมายเสมือนบ้านทรงอื่น รวมทั้งการจัดวางเครื่องเรือนที่เรียบง่ายและไม่มากมายเหลือเกิน

ความอดออมของการผลิตบ้านแบบโมเดิร์นนอกเหนือจากที่จะออมในส่วนหลังติดอยู่แล้ว ยังบางครั้งก็อาจจะรวมทั้งการผลิตฝาผนังแบบปูนเปลือยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องลงสี

หรือพื้นปะปนลือย ที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปูกระเบื้อง ทำให้ออมงบประมาณอย่างยิ่ง และยังรวมไปถึงส่วนเพดานซึ่งบางครั้งก็อาจจะไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำฝ้าเพดานราวกับบ้านทรงธรรมดา

แต่ว่าอาศัยการเดินท่อลอยบนพื้นสำเร็จรูปซึ่งพบมากมองเห็นได้ทั่วๆไป ได้แก่ร้านขายกาแฟ หรือร้านค้าที่ดีไซน์ในทรงยุคใหม่ต่างๆ

Modern Style ใช้น้อยสี สีสันที่ใช้ในสไตล์โมเดิร์นนั้น มักใช้ไม่เยอะแยะ มักเล่นบันเทิงใจกับสีสันด้านในห้องเพียง 2-3 สีเพียงเท่านั้น โดยส่วนมากแล้วมักใช้สีขาวเป็นโทนสีหลัก

ซึ่งโทนสีขาวนั้นจะช่วยทำให้ปรับข้างในห้องนั้นกำเนิดความโปร่งสบายเตียนสบาย ดังนี้ถ้าหากเกลียดสีขาวเพราะเหตุว่าคิดว่าดูแลยาก ให้ทดลองใช้สีเทา หรือสีดำ ก็ได้ แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยแทรกแซมสีสันแจ่มใสเข้าไปอีกครั้งนึง

8. VINTAGE STYLE

เป็นการตกแต่งบ้านที่ได้เลียนแบบแบบการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในสมัยเก่ามาใช้ด้วยกันกับของตกแต่งที่แก่การใช้แรงงานนาน (เก่า)

ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ ตู้เตียง เก้าอี้ โซฟา เคาน์เตอร์ แจกัน ประทีป อื่นๆอีกมากมายรวมถึงการตกแต่งข้างในที่เน้นย้ำการผลิตบรรยากาศให้มองอบอุ่น

จากการเลือกสีสันของลวดลายของผ้าม่าน วอลเปเปอร์แล้วก็โทนสีของบ้าน

การแต่งบ้านสไตล์ Vintage มักเป็นเครื่องเรือนไม้เก่ามาใช้เพื่อสำหรับในการตกแต่ง ก็เลยทำให้ควรจะมีการดูแลมากมายว่าเครื่องเรือนที่ทำจากวัสดุอื่นๆ

เพราะเหตุว่าคุณลักษณะของไม้เองที่มีคงทนถาวรต่อความชุ่มชื้นและก็อุณหภูมิต่ำจำเป็นจะต้องรักษาเครื่องเรือนให้แห้งอยู่เป็นประจำ

หลบหลีกความชุ่มชื้นหรือตั้งอยู่ในรอบๆที่ฝนหรือแสงตะวันส่องเข้ามาถึงควรจะเปิดบ้านเพื่อระบายลม

โดยใช้สีอ่อนสบายตา อย่าง สีขาว ครีมรวมทั้งน้ำตาล เป็นโทนสีหลักเพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่นของในสมัยก่อน เอกลักษณ์ที่สะดุดตาสำหรับสไตล์นี้เป็นการเติมเนื้อหา

ของการตกแต่งด้วยผ้าลูกไม้ ผ้าลายเถาหรือลายดอกไม้สวยหวาน บางทีอาจจะเอามาห่อเป็นปลอกที่มีไว้ใส่หมอน หมอนอิง ผ้าปูโต๊ะ ติดระบายผ้าม่าน ก็ช่วยเสริมให้สไตล์นี้มองเด่นเพิ่มขึ้น

ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถเอามาดัดแปลงห่อโซฟาหรือเคล็ดลับตอกหมุดแบบโบราณเสริมเข้าไปก็ยิ่งช่วยเพิ่มความเป็น Vintage ได้โดยไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อเครื่องเรือนใหม่เลย

สำหรับเก้าอี้บางครั้งก็อาจจะทำเบาะรองนั่งเย็บอุบายเป็นระบายกุ๊นตามขอบด้วยพู่เล็กก็ทำให้เก้าอี้มองน่ารักน่าเอ็นดูเพิ่มมากขึ้น

9. RETRO STYLE

จุดแข็งของการตกแต่งบ้านแบบ Retro Style เป็นกระบวนการทำให้บ้านของพวกเรามองเด่น บันเทิงใจ สดชื่น ซึ่งรวมถึงการตกแต่งบ้านให้ออกมาจัดจ้าและก็จี๊ดจ๊าดในแบบที่ไม่มีใครเหมือน

ซึ่งวิธีการของใช้สำหรับตกแต่งบ้านแบบ Retro ไม่สำคัญต้องตกแต่งให้ย้อนยุคดังแบบวินเทจ ซึ่งช่วงที่คนประเทศไทยผู้คนจำนวนมากนิยมตกแต่งย้อนยุคในแบบ Retro

ก็คือสมัย 2499 อันธพาลครองบ้านครองเมือง นั่นเอง โดยส่วนสำคัญของการตกแต่งบ้านแบบ Retro Style ก็มีดังนี้เลย

โทนสีจะต้องจี๊ดจ๊าด เรื่องของโทนสีไม่เฉพาะเจาะจงว่าจำเป็นจะต้องใช้โทนสีไหนเป็นพิเศษ เนื่องจากในแต่ละช่วงจะมีชีวิตชีวาเฉพาะสมัยนั้นๆอยู่แล้ว

อย่างโทนสีพาสเทลที่เป็นของสมัย 50’s ไปจนกระทั่งสีสันที่บาดตาของสมัย 70’s เป็นต้นว่า สีเขียว สีส้ม และก็สีเหลืองมะนาว

เครื่องเรือนจะต้องเก๋ ในแต่ละสมัยก็จะมีเครื่องเรือนที่วางแบบเก๋ๆตามแต่ละสมัยเหมือนกัน ดังนั้นวิธีสำหรับการเลือกซื้อเครื่องเรือนจะต้องเลือกให้ดีว่าพวกเราตกแต่งตามสมัยไหน

และไม่ว่าจะทรงเรขาคณิต โค้งมน หรือแบบไหนก็ตาม แม้กระนั้นเครื่องเรือนในแบบ Retro จำเป็นต้องใช้เพียงแค่น้อยชิ้น รวมทั้งแต่ว่าชิ้นก็ควรมีความเด่นในตนเอง

เลือกของตกแต่งให้โดน การแต่งบ้านแบบ Retro ที่จำเป็นเลยก็คือพวกของตกแต่งนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น นาฬิกา ตุ๊กตา โมเดล รวมทั้งรวมถึงวอลเปเปอร์บนผนังด้วย

ดังนั้น การเลือกของตกแต่งที่ดี รวมทั้งถูกใจจะช่วยเพิ่มความเป็น Retro ในต้นแบบของคุณที่ไม่ซ้ำใครอย่างแน่แท้